วิศวฯ มช. ร่วมเป็นสถาบันวิศวฯ นำร่อง โครงการขับเคลื่อนให้สถาบันอุดมศึกษาไทยได้รับการรับรองจาก Accreditation Board for Engineering and Technology (ABET) ภายในปี 65

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ณัฐ วรยศ คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และประธานสภาคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย สมัยที่ 42 ในฐานะผู้แทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้แทนคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้แก่ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล รองศาสตราจารย์ ดร.ธงชัย ฟองสมุทร, หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมโยธา ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธวัชชัย ตันชัยสวัสดิ์ และหัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. วสวัชร นาคเขียว ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ ภายใต้โครงการขับเคลื่อนให้สถาบันอุดมศึกษาไทยได้รับการรับรองจาก Accreditation Board for Engineering and Technology (ABET) ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ในวันศุกร์ที่ 31 มกราคม 2563 เวลา 08.30 – 11.00 น. ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร ชั้น 3 สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม

           การลงนามความร่วมมือภายใต้โครงการข้างต้น เป็นข้อตกลงระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ของสถาบันอุดมศึกษานำร่อง อันได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อผลักดันให้ความร่วมมือการดำเนินโครงการดังกล่าวมีแนวทางชัดเจน นำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ตลอดจนพัฒนาการจัดการศึกษาหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ของสถาบันนำร่องให้มีมาตรฐานสอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานของ ABET ทั้งยังสนับสนุนให้ประทศไทยหน่วยงานรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ระดับสากล พร้อมพัฒนให้ TABEE (Thailand Accreditation Body for Engineering Education)ก้าวสู่ระบบระบรองตามเกณฑ์ผลลัพธ์ เพื่อพร้อมเป็นหน่วยงานรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาเทียบเคียงกับนานาชาติ

           อนึ่ง โครงการดังกล่าวเริ่มจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เป็นผู้ริเริ่มโครงการส่งเสริมสถาบันอุดมศึกษาไทย ให้ได้รับการรับรองจาก Accreditation Board for Engineering and Technology (ABET) ของสหรัฐอเมริกา นับแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ มุ่งส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาไทยยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษา สาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์ให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ผลักดันหลักสูตรวิศวกรรมศาสตร์ไทยให้ผลิตบัณฑิตที่มีทักษะ และสมรรถนะในการทำงานตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้งข้อกำหนดในการประกอบวิชาชีพระดับสากล ตลอดจนสามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานได้ทั่วโลก

นอกจากนี้ยังเป็นช่องทางสร้างภาคีเครือข่ายต่างประเทศ โดยหลักสูตรที่ถูกยอมรับมาตรฐานคุณภาพว่าเทียบเคียงกับนานาชาติ ซึ่งสามารถขยายความร่วมมือทางวิชาการกับต่างประเทศในด้านต่าง ๆ ทั้งยังส่งเสริมการเข้าศึกษาต่อของนักศึกษาสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำในต่างประเทศที่มีหลักสูตรการเรียนการสอนอันมีมาตรฐานคุณภาพการศึกษา ภายใต้ข้อตกลงระดับนานาชาติร่วมกัน ทั้งในประชาคมอาเซียน ตลอดจนประชาคมโลก

ที่ผ่านมา กระทรวงฯ ดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกับสมาคมนักวิชาชีพไทยในอเมริกาและแคนาดา (The Association of Thai Professionals in America and Canada: ATPAC) และผู้เชี่ยวชาญชาวต่างประเทศ ได้แก่ การประชุมวิชาการและการจัดอบรมให้ความรู้ในเบื้องต้นเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐาน คุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ตามเกณฑ์ของ ABET การประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อให้ความรู้ในเชิงลึก เกี่ยวกับแนวปฏิบัติในการเตรียมความพร้อมเพื่อขอรับการรับรอง การจัดให้ผู้เชี่ยวชาญเดินทางไป ตรวจรายงานการศึกษาตนเอง (Self-Study Report: SSR Review) และทดลองประเมิน (Mock Visit) ให้แก่ กลุ่มสถาบันอุดมศึกษานำร่อง เป็นต้น ประกอบกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ฯ เห็นชอบพร้อมมอบหมาย ให้สำนักยุทธศาสตร์อุดมศึกษา จัดประชุมร่วมกับผู้แทนสถาบันอุดมศึกษานำร่อง รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ๒ ครั้ง คือ การประชุมหารือแนวทาง และมาตรการในการผลักดัน TABEE (Thailand Accreditation Body of Engineering Education) เข้าเป็นสมาชิกถาวรภายใต้ข้อตกลง Washington Accord เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๒ และประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการดำเนินงานยกระดับมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ เมื่อวันที่  ๑๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ซึ่งมีมติให้ดำเนินการ 2 ประเด็นหลัก

ประเด็นที่ ๑ ให้ดำเนินการภายใต้โครงการส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาไทยได้รับการรับรอง จาก ABET เร่งผลักดันให้สถาบันอุดมศึกษานำร่องทั้ง 6 สถาบัน สมัครขอการรับรองจาก ABET ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕  ส่วนประเด็นที่ ๒ คือ เดินหน้าเรื่องการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ของ TABEE (Thailand Accreditation Body for Engineering Education) ให้ ได้เป็นสมาชิกถาวรภายใต้ข้อตกลง Washington Accord โดยมีแนวทาง ได้แก่ จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการร่วมกับสถาบันอุดมศึกษานำร่องที่มีศักยภาพ และมีความพร้อม เพื่อสนับสนุน และผลักดันให้สถาบันอุดมศึกษาสมัครขอรับการรับรองจาก ABET ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ ขับเคลื่อนโครงการ ฯ อย่างต่อเนื่อง และเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม ตามเป้าหมายที่กำหนด

นอกจากนี้ ยังขอความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษานำร่องจัดกิจกรรมส่งเสริมการดำเนินโครงการฯ แก่สถาบันอุดมศึกษาอื่นอย่างน้อย ๔ แห่ง เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ตามเกณฑ์ผลลัพธ์ตามแนวทางของ ABET พร้อมผลักดัน TABEE ให้เป็นหน่วยงานประเมินคุณภาพภายนอกระดับประเทศ โดยขอการรับรองจากคณะกรรมการมาตรฐานการอุดมศึกษา (กมอ.) ตลอดจนเปิดโอกาสให้สถาบันอุดมศึกษาไทยสมัครขอการรับรองประเมินมาตรฐานคุณภาพการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ตามความสมัครใจ โดยมีอิสระเสรีภาพทางวิชาการในการยื่นขอการรับรอง ฯ จากหน่วยงานประเมินคุณภาพภายนอก ทั้งระดับประเทศ และระดับสากล พร้อมให้สถาบันนำร่องที่ขอรับการรับรองจาก ABET สมัครเข้ารับการประเมินตามเกณฑ์ของ TABEE ไปในขณะเดียวกัน เนื่องจากการสนับสนุนให้ TABEE ได้เป็นสมาชิกถาวร (Full Signatory) ภายใต้ข้อตกลง Washington Accord มีเงื่อนไขว่าภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๖ ต้องมีจำนวนหลักสูตร อย่างน้อย ๔ หลักสูตร จาก ๒ สถาบันอุดมศึกษาผ่านการรับรองแบบ Full Accreditation และมีการดำเนินงานที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล

]]>