บัณฑิตวิศวฯ ซ้อมย่อยวันแรก คณบดีให้โอวาทเป็น “ผู้สร้างทั้งดวงมาน”

บัณฑิตทุกระดับของคณะวิศวกรรมศาสตร์ มช. ซ้อมเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรวันแรก 19 มกราคม 2558 ณ คณะวิศวกรรมศาสตร์ โดยคณบดี ผศ.ดร.ณัฐ วรยศ ได้กล่าวแสดงความยินดี พร้อมกล่าวแสดงความยินดีและให้โอวาทในการเป็นนายช่างที่มีคุณค่า และการเริ่มต้นชีวิตของการเป็น “ผู้สร้างทั้งดวงมาน”

คำกล่าวแสดงความยินดีบัณฑิตใหม่ คณะวิศวกรรมศาสตร์

คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

โดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐ  วรยศ

๑๙ มกราคม พ.ศ. 255๘

 

ลูกพระวิษณุทุกคน คงจะจำวันที่เราวิ่งขึ้นดอยเพื่อนมัสการวัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นอย่างดี ..   ผมเป็นอาจารย์คนหนึ่งในกลุ่มของคณาจารย์หลายๆ คน ที่วิ่งบ้าง เดินบ้าง ซึ่งหลังๆ จะเดินมากกว่าวิ่ง ขึ้นดอยไปกับลูกพระวิษณุทุกๆ ปี ตามประสาของคนเริ่มแก่และคนที่ผมเริ่มขาว ผมใคร่ขอรื้อฟื้นความรู้สึกทุกท่านที่วิ่งในวันนั้นอีกครั้งหนึ่ง ..ท่านทั้งหลาย คงจำความเหนื่อยอ่อนจากการอดนอนในคืนก่อนหน้า และความระทดท้อของทุกย่างก้าวที่ต้องออกแรงวิ่ง ทั้งที่ขาแข้งล้า จนวิ่งแทบจะไม่ไหว ต้องวิ่งรวมกลุ่มกับเพื่อนและพี่กว่าพัน ฝ่าโค้งทีละโค้ง ทีละโค้ง ทีละโค้ง อย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น คงจำโค้งขุนกัณฑ์ เสียงเฮลั่นของขบวนลูกพระวิษณุ ทั้งเก่าและใหม่ ที่ให้กำลังใจกันและกันผ่านเนินสูง คงจำคอที่แห้งผาด ปอดที่หายใจแทบไม่ทัน อากาศชื้นหนา ท่อนขาที่เป็นตะคริว น้ำหนักของเพื่อนที่หมดสติที่เราทั้งต้องแบก ต้องลาก ต้องหามจากโค้งสู่โค้ง บนทางที่สูงชัน คงจำได้ถึงน้ำตาของทั้งผู้หญิง และผู้ชาย น้ำตาของของคนที่เราเรียกว่าเพื่อน คงจำภาพของเพื่อนที่กอดคอกันข้ามโค้งสุดท้าย เสียงให้กำลังใจของพี่น้อง เสียงปรบมือของคนรอบข้าง  รอยยิ้มในความสำเร็จ แม้เป็นเพียงความสำเร็จเล็กๆ แต่เป็นความรู้สึกดีที่มีอยู่ในใจลูกวิศวะทุกคน มิฉะนั้นวันรับน้องขึ้นดอยคงจะไม่ใช่วันที่มีศิษย์เก่ามาร่วมงานมากที่สุดวันหนึ่ง ….หาก จะเปรียบ จะเทียบ ชีวิตของเราก็จะผ่านโค้ง ผ่านเนิน เช่นนี้จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ลูกพระวิษณุทุกคน วันนี้ ณ ที่แห่งนี้ ถือเป็นการเฉลิมฉลอง ถือเป็นเครื่องหมาย ถือเป็นโค้งแรกแห่งความสำเร็จ ถือเป็นโค้งแรกของการออกวิ่ง ซึ่งสำหรับบางท่าน บ้างได้ชิมลาง บ้างได้เรียนรู้ บ้างได้กำลังใจ บ้างเริ่มระทดท้อ บ้างได้รู้ซึ้งถึงรสชาติของการเป็น “นายช่าง” บ้างได้รู้จักของรสชาติของ “ชีวิตจริง” ไปบ้างแล้ว ความเป็นวิศวกรรมศาสตร์ เชียงใหม่ ไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ อยู่ในรั้วช้างเหล็กแห่งนี้ …แต่ความเป็นวิศวกรรมศาสตร์ มช. อยู่ที่ตัวนายช่างทั้งหลาย ทุกท่านที่สำเร็จการศึกษาออกไป และอยู่ตัวทุกท่านที่นั่งอยู่ ณ ที่แห่งนี้ วันนี้คณะวิศวกรรมศาสตร์คงไม่มีพรได้ยิ่งใหญ่ไปกว่า ขอให้นายช่างทั้งหลายได้นึกถึง คุณค่าของความเป็นนายช่างดังต่อไปนี้ให้จงมั่น
  1. การรู้พี่ รู้น้อง รักพ้องและเพื่อน ซึ่งมุ่งหวังให้เราทุกคนรู้จัก มีสัมมาคารวะ เคารพ ให้เกียรติ ซึ่งกันและกัน กับผู้อาวุโส ผองเพื่อน และรุ่นน้อง 
  2. ระเบียบ วินัย ซึ่งมุ่งหวังให้เราทุกคนรู้จัก มีวินัยในตัวเอง รู้จักพัฒนาตน รับผิดรับชอบทุกอย่างด้วยความรู้ทางช่าง มีจรรยาบรรณ เคารพกฎระเบียบ สำนึกในสิทธิและหน้าที่ มีความซื่อสัตย์สุจริต
  3. การยึดมั่นรักษาประเพณี ซึ่งมุ่งหวังให้เราทุกคนรู้จัก ยึดมั่นในหลักการและคุณความดี ให้คงมั่น
  4. รู้ รัก สามัคคี ซึ่งมุ่งหวังให้เราทุกคนรู้จัก ทำงานเป็นหมู่คณะ ร่วมแรงร่วมใจเพื่อผลสัมฤทธิ์
….และสุดท้าย 5. จิตวิญญาณ ซึ่งมุ่งหวังให้เราทุกคนรู้จัก เสียสละต่อผู้อื่นและสังคม แม้นเราเหนื่อย เราล้า เราลำบาก จงทำต่ออีกนิด เสียสละอีกหน่อย หากสิ่งที่เราทำนั้นจะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม ขอพวกเรามี สปิริต ขอให้ท่านยึดมั่นในพรนี้ ในการเริ่มต้นชีวิต ของการเป็น “ผู้สร้างทั้งดวงมาน” …นายช่างทั้งหลาย … จะห่วงไปใย ในเมื่อหลังโค้งข้างหน้า ก็อาจจะมี อีกโค้ง และอีกโค้งให้ฟันฝ่า  จะห่วงไปใยในเมื่อปัญหามีไว้ให้แก้ จะห่วงไปใย ในเมื่อข้างหน้ามีคนคอยช่วยจูง ข้างหลังมีคนช่วยดัน ข้างข้างมีคนช่วยประคอง จะห่วงไปใยในเมื่อมีเพื่อนให้พึ่งพา จะห่วงไปใย ในเมื่อมีทั้งครูบา อาจารย์ ทั้งคณะ ทั้งมหาวิทยาลัยคอยปรบมือ ให้กำลังใจ ให้ทุกๆท่านผ่านทุกๆโค้งของชีวิต ขอเพียงเข้าร่วมขบวนนี้ มาร่วมขบวนวิ่งให้ทัน ไม่เมาหลับพับไปในคืนก่อนหน้า ขอเพียงไม่หยุดวิ่ง ขอเพียงตั้งใจจริง  เป้าหมายที่ตั้งบนยอดดอยลิบตานั้นคงไม่ไกลเกินแรงขา  ขอเพียงมีความหมายให้กับการวิ่ง ขอมีความหมายให้กับชีวิต อย่าหยุดวิ่ง  อย่าหยุดสู้ ขออำนาจ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกที่ท่านนับถือ โปรดดลบันดาลให้ท่านได้วาดฝัน มุ่งหวังแต่ความดี ประสบความสัมฤทธิ์ผลในหน้าที่การงานที่มุ่งมั่นไว้ดีแล้วนั้น  ขอให้ท่านได้มีสุขภาพแข็งแรง มีครอบครัวที่ไม่ว่าจะรวยหรือจะจนในทรัพย์สิน แต่มากล้นด้วยความสุข มีความเจริญก้าวหน้าด้วยความดีของตนด้วยเทอญ]]>