รศ. ดร.วัสสนัย วรรธนัจฉริยา คว้า 2 รางวัลเกียรติยศด้านการวิจัยการเกษตร ประจำปี 2568

สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สวก. ได้ประกาศเชิดชูเกียรติ รองศาสตราจารย์ ดร.วัสสนัย วรรธนัจฉริยา หัวหน้ากลุ่มวิจัยด้านเทคโนโลยีขั้นสูงและการจัดการนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (AIMCE) ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในฐานะนักวิจัยที่มีผลงานโดดเด่นและสร้างผลกระทบ อย่างเป็นรูปธรรมต่อชุมชนและอุตสาหกรรม

โดยได้รับรางวัลสำคัญพร้อมกันถึง 2 รางวัล ได้แก่

  1. รางวัลนักวิจัยด้านการเกษตรดีเด่น (ลำดับที่ 2) ประจำปี 2568
  2. รางวัลโครงการวิจัยด้านการเกษตรดีเด่น (ลำดับที่ 3) ประจำปี 2568 จากโครงการ “การยกระดับความสามารถชุมชนเทพเสด็จด้วยการพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงในกระบวนการผลิตเมล็ดกาแฟและการจัดการแบบองค์รวม”

## จาก “ของเหลือทิ้ง” สู่ “นวัตกรรมสุขภาพ”

โจทย์ใหญ่ที่จุดประกายงานวิจัยคือการจัดการกับเนื้อผลเชอร์รี่กาแฟ วัสดุพลอยได้จำนวนมหาศาล ที่มักถูกทิ้งหรือก่อปัญหาสิ่งแวดล้อม รศ.ดร.วัสสนัยและทีมวิจัยจึงร่วมกับชุมชนเทพเสด็จและพันธมิตร ออกแบบโครงการตามแนวทาง BCG Economy เพื่อแปรรูปสิ่งที่เคยไร้ค่าให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพ ที่มีศักยภาพเชิงพาณิชย์ผลงานต้นแบบ “CherryKoff” ได้แก่

  • เครื่องดื่มคีเฟอร์โซดาจากเชอร์รี่กาแฟ – เครื่องดื่มหมักเพื่อสุขภาพที่ประกอบด้วยสารอนุมูลอิสระสูง และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ มีรสเปรี้ยวซ่า สดชื่น ดื่มง่าย
  • เชอร์รี่กาแฟแช่อิ่มอบกึ่งแห้ง – ขนมเพื่อสุขภาพที่คงรสชาติคล้ายผลไม้อบแห้ง มีไฟเบอร์สูง เก็บรักษาได้นาน เหมาะเป็นของว่าง ของฝาก หรือวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหาร

ทั้ง 2 ผลิตภัณฑ์ได้รับการทดสอบตลาดจริง และได้รับความพึงพอใจจากผู้บริโภคมากกว่า 80%

##ผลลัพธ์เชิงประจักษ์ พร้อมขยายผล

โครงการดังกล่าวไม่เพียงสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ แต่ยังนำไปสู่การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้กาแฟเทพเสด็จ ที่ชุมชนบริหารเอง เป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการแปรรูป การจัดการซัพพลายเชน และการสร้างอัตลักษณ์ ผลิตภัณฑ์ มีการเก็บข้อมูลและเกิดความร่วมมือกว่าผู้ประกอบการกว่า 100 ราย ครอบคลุมทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ และภาคตะวันออก

  • ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่ แนวทางการส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 300,000 บาท/ปี มีการถ่ายทอดองค์ความรู้และการพัฒนาผู้ประกอบการท้องถิ่น
    ซึ่งนำไปสู่การลดปัญหาสิ่งแวดล้อมจากการทิ้งของเสีย โดยมีผลประเมินเชิงเศรษฐกิจและสังคมกว่า 3 เท่า (SROI = 3.42)

## ความร่วมมือข้ามศาสตร์และการยอมรับระดับนานาชาติ

เบื้องหลังความสำเร็จเกิดจากการบูรณาการองค์ความรู้หลายสาขา ทั้งวิศวกรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมเกษตร เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ และสถาปัตยกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ มหาวิทยาลัยพะเยา โดยมีพันธมิตรภาคเอกชน เช่น บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรวมใจพัฒนากาแฟเทพเสด็จ ร่วมสนับสนุนและทดสอบตลาดจริง

ผลงาน CherryKoff ยังได้รับการยอมรับในหลายเวที เช่น รางวัล Agrithon 2024: Champ of the Week, รางวัล Agri Plus Award 2025 (รองชนะเลิศอันดับ 2 ถ้วยพระราชทานฯ) มีผลงาน ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารนานาชาติ LWT (Q1, ISI) และการจดอนุสิทธิบัตร 2 ผลงาน ด้านการแปรรูปเชอร์รี่กาแฟ และการนำเสนอผลงานในบทความ Asia Food & Beverages Report เป็นต้น

ความสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ได้แก่

SDG 3: สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี – ผลิตภัณฑ์สุขภาพจากเชอร์รี่กาแฟ

SDG 8: งานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจ – เพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและผู้ประกอบการ

SDG 12: การผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน – แปรรูปของเหลือทิ้งให้เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง

SDG 13: การรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ – ลดปัญหาของเสียทางการเกษตร